กัลปังหากับความเชื่อ ของมงคลจากทะเลอันดามัน เครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าเรียกโชคลาภได้

จะมีใครบ้างที่เกิดมาแล้วไม่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต มีการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพร่างกายที่ดี ทุกคนล่วนแล้วมีความอยากที่จะเจอเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตทั้งนั้น และหากคุณเป็นคนที่เจอกับเรื่องร้ายๆมาทั้งชีวิต ก็อยากจะให้มีอะไรในชืวิตที่ดีขึ้นบ้าง การที่เราจะบูชาเครื่องรางที่เชื่อกันว่าจะทำให้คุณมีโชคมีลาภเข้ามาในชีวิต เห็นแบบนี้แล้วไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมหละ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ กัลปังหา ของมงคลจากทะเลอันดามัน ช่วยเรียกโชคลาภเข้ามาในชืวิต ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูกันเลย

รู้จักกับกัลปังหา

กัลปังหา (Gorgonians) เป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลที่บางชนิดมีรูปร่างแผ่แบนคล้ายพัด ก็จะเรียกว่าพัดทะเล (Sea fan) หรือบางชนิดมีลักษณะเป็นเส้นเดี่ยวคล้ายแส้ ก็จะเรียกว่าแส้ทะเล (Sea whip) ซึ่งถ้ามองเผินๆ แล้วกัลปังหาจะดูเหมือนต้นไม้ แต่ความจริงแล้ว กัลปังหาเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับปะการัง แต่ถูกแยกออกมาเป็น Subclass Octocorallia ซึ่งมีสมมาตรของร่างกายแบบรัศมี นอกเหนือจากรูปร่างลักษณะภายนอกที่เห็นแตกต่างกับปะการังแข็งแล้ว ตัวของกัลปังหาหรือที่เรียกว่า “โพลิป” (Polyp) แต่ละตัวนั้นจะมีหนวด (Tentacle) 8 เส้น ในขณะที่โพลิปของปะการังแข็งแต่ละตัวจะมีหนวด 6 เส้น หนวดเหล่านี้มีลักษณะคล้ายขนนก ทำหน้าที่กรองดักสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ล่องลอยอยู่ในมวลน้ำแล้วนำมากินเป็นอาหาร บริเวณหนวดของมันยังมีเข็มพิษที่คอยช่วยในการจับเหยื่อพวกแพลงก์ตอนสัตว์อีกด้วย โดยจะพบกัลปังหามากในบริเวณที่มีกระแสน้ำไหล เนื่องจากกระแสน้ำมีส่วนช่วยในการพัดพาอาหารมาให้ และช่วยพัดพาสิ่งขับถ่ายหรือของเสียที่ถูกปลดปล่อยจากตัวกัลปังหาออกไป

         กัลปังหาสามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศเช่นเดียวกับปะการัง การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศนั้นใช้วิธี “แตกหน่อ” (Budding) หรือ “การแยกออกจากกัน” (Fragmentation) ส่วนการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเป็นการผสมภายในระหว่างเซลสืบพันธุ์ของเพศผู้และเพศเมียที่มาจากต่างโคโลนี (Colony) กัน โดยที่แต่ละโคโลนีของกัลปังหาส่วนใหญ่จะมีเซลสืบพันธุ์เพียงเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น

        กัลปังหามีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทะเลขนาดเล็ก หลายชนิด ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ อาจพบดาวเปราะ หอยเบี้ย ปู หรือกุ้ง เกาะติดอยู่ตามกิ่งก้านของกัลปังหาเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้ว การที่กัลปังหามีรูปร่างและสีสันที่สวยงาม จึงเป็นที่นิยมในการนำมาประดับตู้ปลา และนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งนำส่วนที่เป็นแกนในสีดำมาทำเป็นครื่องรางของขลัง และที่สำคัญ ชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่ากัลปังหาเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

กัลปังหา เป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำ จะมีลักษณะอ่อนนุ่ม แต่เมื่อตายแล้ว อยู่บนบก กลับแข็ง….จัดเป็นของที่มีพลังในตัว แม้ไม่ได้ปลุกเสก เฉกเช่นเดียวกับ งาช้าง เมื่อยิ่งได้รับการกัลปังหาปลุกเสก หรือนำมาทำเป็นเครื่องราง ยิ่งมีพลังยิ่งขึ้น…

      กัลปังหาซึ่งบางท่าน ถือเป็นเคล็ด เพราะเรียกคล้ายๆกับ”กันปัญหา” ขับไล่สิ่งชั่วร้าย กันภูติผีปีศาจ แบ่งเป็น กัลปังหาขาว กัลปังหาดำ และกัลปังหาแดง ที่หายาก เห็นจะได้แก่ กัลปังหาแดง

      “จากความเชื่อที่ว่ากัลปังหาแก้มนต์ดำได้ และเป็นของขลังทำให้ความนิยมเกิดขึ้นแพร่หลายรวบเร็วมาก หากไม่แก้ปัญหาเชิงรุกก่อนเชื่อว่ากัลปังหาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ จะลดลงและอาจสูญพันธุ์ได้” นายไพทูลกล่าว

 

ความเชื่อเกี่ยวกับกัลปังหา

กัลปังหา มีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง เมื่ออยู่ในน้ำ จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่หากนำขึ้นบก (และมันก็ตาย) กลับแข็ง มีความเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเป็นของที่มีพลังอำนาจอยู่ในตัว ถึงแม่ยังไม่ได้ทำพิธีปลุกเสกก็ตาม เหมือนกับความเชื่อที่ว่า งาช้าง งาสะเด็น เขี้ยวเสือกลวงเป็นของทนสิทธิ์ มีฤทธิ์อยู่ในตัว แต่ถ้าได้นำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังและทำพิธีปลุกเสกแล้วก็จะเพิ่มความเข้มขลังยิ่งขึ้น

 

ประเภทและของกัลปังหา

กัลปังหา เป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำจะมีลักษณะอ่อนนุ่ม แต่เมื่อตายแล้ว อยู่บนบก กลับแข็ง….จัดเป็นของที่มีพลังในตัว แม้ไม่ได้ปลุกเสก เฉกเช่นเดียวกับ งาช้าง นำมาทำเป็นเครื่องรางยิ่งได้รับการปลุกเสก ยิ่งมีพลังยิ่งขึ้น…
ในส่วนความเชื่อทางเครื่องรางของขลัง ส่วนมากมักจะนำมาทำเป็นปลัดขลิกบ้าง กำไลบ้าง หรือแม้แต่ประคำ ส่วนในทางพุทธคุณนั้น
เชื่อกันว่าเรียกโชคลาภ ป้องกันอันตรายกันภูตผีปีศาจได้โดยเฉพาะผีพราย แต่กัลปังหามีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แม้ไม่ได้รับการเสกเพิ่มจากคณาจารย์
หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ท่านเก่งและเชี่ยวชาญการทำปลัดขิก เคยมีโยมท่านหนึ่งได้นำเอากัลปังหามาให้ท่านเสกให้ แต่ท่านปฏิเสธไปพร้อมกับบอกว่า มันดีในตัวมันอยู่แล้ว ตามที่กระผมได้ยินมาจากวัดท่านนั้น ท่านไม่เคยทำปลัดขิกจากไม้กัลปังหาเลย ดังนั้นใครที่มีกัลปังหาไว้ครอบครองเป็นของกายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว ป้องกันคุ้มภัยต่างๆนานา ชื่อก็บอกแล้วว่า กัล กันได้ทุกอย่างที่ไม่ดีทั้งหมดทั้งมวล
กัลปังหาซึ่งบางท่าน ถือเป็นเคล็ดเพราะเรียกคล้ายๆกับ”กันปัญหา” ขับไล่สิ่งชั่วร้าย กันภูติผีปีศาจ แบ่งเป็น กัลปังหาดำ กัลปังหาทองดำ กัลปังหาขาวและกัลปังหาแดง ถ้าเราแบ่งพุทธคุณและความหายาก จะได้ดังนี้
 
1. กัลปังหาดำ ยังพอหาได้ไม่ยาก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่และความสวย
 
2. กัลปังหาทองดำ หายากมาก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่และความสวยและมีสีทองเคลือบมากหรือน้อย พุทธคุณสูงกว่าสีดำ
 
3. กัลปังหาสีขาว ยิ่งหายากกว่ากัลปังหาดำ และกัลปังหาทองดำอีก ราคาขึ้นอยู่กับความใหญ่ความสวยของเนื้อ พุทธคุณทุกด้านสูงกว่า กัลปังหาดำ กัลปังหาทองดำ
 
4. กัลปังหาแดง สุดยอดหายาก ของแท้สีจะออกซีดเนื้อหยาบไม่ค่อยสวย แต่สุดยอดในทุกๆด้านหายากมากๆ ใครมีไว้จะเก็บและหวงแหนมาก
ในปัจจุบันนี้กัลปังหาที่ยังมีให้พบเห็นอยู่จะมีแต่กัลปังหาดำเท่านั้น กัลปังหาทองดำ กัลปังหาขาว กัลปังหาแดงจะไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนักและราคาจะแพงมาก ในสมัยก่อนชาวเผ่ามายาวีใช้เป็นทำเครื่องรางและเครื่องประดับติดตัว ใช้กินแก้ยาสั่งได้ วิธีใช้ เมื่อรู้ตัวว่าโดนยาสั่งให้ฝนกับน้ำมะนาวกินก็จะอาเจียรออกมา ป้องกันแมงกะพรุน ถอนพิษสัตว์กัดต่อย
แต่ถ้าเมื่อนำมาปลุกเสกด้วยพลังจิต
 
– กัลปังหาดำ กัลปังหาทองดำ กัลปังหาขาว พุทธคุณจะเด่นด้าน เมตตามหานิยม โชคลาภเงินทอง คงกระพัน มหาอุด เจริญรุ่งเรืองทางการค้า
 
– กัลปังหาแดง พุทธคุณจะเด่นด้าน เมตตามหานิยม คงกระพัน มหาอุด ลางสังหรณ์เตือนภัย หยั่งรู้ฟ้าดิน
 
– ถ้าใครสามารถหากัลปังหาได้ครบ 3 ชนิดที่ว่าไว้ถือว่าสุดยอด
 
 

สรุป

การที่สายมูอย่างเราๆจะลองหากัลปังหามาบูชากันบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสรรพคุณที่ผู้คนต่างรำลือกันว่าช่วยเรียกโชคลาภในชีวิต เราก็คงจะหามาลองกันบ้างใช่ไหมหละ แต่บางสิ่งที่ทำมาจากธรรมชาติเราก็อย่าไปครอบครองในจำนวนที่มากจนเกินพอดีนะ เพราะอาจจะไปเบียดเบียนกับกัลปังหาในท้องทะเลกันมากเกินไป ธรรมชาติสวยๆจะได้อยู่คู่กับลูกหลานต่อไปอีกนานๆ บูชาได้แต่ไม่เบียดเบียนใครนะเพื่อนๆ

เล่นหวยออนไลน์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :